บทความ
เรื่อง ศิลป์ศาสตร์งานทอผ้า ภูมิปัญญา ละว้า-กะเหรี่ยง
เสื้อผ้า คือ
เครื่องแต่งกายที่ควรสวมใส่ไว้เพื่อความสวยงามและเพื่อใช้ ปกปิดร่างกายของตนเอง
ในขณะเดียวกันมนุษย์เราต่างก็มีหลากหลายชนเผ่า เช่น ชนเผ่ากะเหรี่ยง ชนเผ่าม้ง
เป็นต้น
แต่ละเผ่าต่างก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เช่น วัฒนธรรมการแต่งกาย ลักษณะความเป็นเฉพาะเผ่า
แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์บวกกับวัฒนธรรมภูมิปัญญาและสภาพที่ตั้งของแต่ละเผ่าที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันจึงทำให้เกิดความหลากหลายทางวัฒนธรรมการแต่งกาย
ชนเผ่ากะเหรี่ยงและชนเผ่าละว้าเป็นชนเผ่าที่มีความหลากหลายทางภาษาและมีศาสนาความเชื่อที่ต่างกัน
กะเหรี่ยงดั้งเดิมจะนับถือผี เชื่อในเรื่องต้นไม้
ละว้าก็เช่นเดียวกันที่มีความเชื่อในเรื่องของผีแต่อาจมีความแตกต่างจากชาวกะเหรี่ยงในบางส่วน

งานทอผ้าละว้าทั้งในอดีตและปัจจุบันยังคงใช้กี่ขนาดเล็กที่เรียกว่า “กี่เอว” ใช้เป็นอุปกรณ์ในการทอผ้า ฝ้ายและด้ายที่ใช้ในการทอผ้ามีทั้งฝ้ายที่ถูกปลูกเองและซื้อมา เช่นเดียวกับสีที่ใช้ในการทอผ้าจะได้จากสีธรรมชาติและสีเคมี
ลวดลายผ้าของชาวละว้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะพบเพียง 2
ลาย คือ ลายเส้นที่เกิดจากการมัดย้อมเส้นยืนบนผืนผ้าซิ่นและอีกลายหนึ่งคือ
ลายข้าวหลามตัดซึ่งทอไว้เป็นผ้าคลุมศพคนตาย
งานทอผ้าของชาวกะเหรี่ยงนิยมใส่เสื้อผ้าฝ้ายทอมือ
ชาวกะเหรี่ยงนั้นจะปลูกฝ้ายเอง
ซึ่งการย้อมผ้าของชาวกะเหรี่ยงนั้นจะนำฝ้ายมั่นเส้นด้ายแล้วย้อมด้วยสีธรรมชาติ
สร้างลวดลายด้วยการทอ การปักด้ายเส้นไหมและลูกเดือยลายที่นิยมนำมาทอและปักมี ๔
ลาย คือ โยห่อกือ เก่อเปเผลอะ ฉุ่ยข่อลอ และ ลายทีข่า
ปัจจุบันมีลายที่ชาวกะเหรี่ยงนิยมนำมาทอคือ เก่อแนเดอ หรือ ลายรังผึ้ง
และอีกลายหนึ่งคือ เส่อกอพอ หรือ ลายดอกมะเขือ
การย้อมผ้าฝ้ายสีธรรมชาติของชาวกะเหรี่ยงจะใช้เปลือกไม้ที่เรียกกันว่า
“ซาโกสะมอ” จะได้สีน้ำตาล และผล “มะขามป้อม” จะได้สีเทา
ด้ายที่ใช้ในการทอผ้าของชาวกะเหรี่ยงได้แก่
เส้นไหมยืน หรือ เส้นไหมเรียบ เป็นเส้นไหมที่ต้องนำมาตีเกลียวอีกครั้งหนึ่ง
และเส้นไหมพุ่ง แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ เส้นไหมเส้นเดียวแต่มีขนาดใหญ่ เช่น
เส้นไหมดูเปี้ยน และ เส้นไหมพื้นเมือง หรือไหมเสามือ และยังมีอีกประเภทหนึ่งคือ
เส้นไหมควบตีเกลียวโดยการนำเส้นไหมดิบหลายๆเส้นนำมาควบตีเกลียวให้มีจำนวนเกลียวประมาณ
๑๕๐-๑๘๐ เกลียวต่อเมตร

ลวดลายผ้าได้แก่ ลายในเนื้อผ้า ลวดลายจะปรากฏเป็นเส้นนูนตามแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้
ลวดลายสลับสีเป็นการทอผ้าแบบธรรมดา คือ
ใช้ด้ายยืนและด้ายขวางจำนวนเท่าปกติแต่แทรกด้วยสีต่างๆสลับเข้าไป ลายจก
เป็นการทอลวดลายโดยการสอดด้าย ลายขิด คือ
การทอผ้าโดยให้ลวดลายที่ปรากฏเหมือนกันทั้งผืน ลักษณะของลายขิดจะเป็นแบบยกดอกในตัวโดยกำหนดสีตามด้ายยืน
การทอธรรมดาหรือทอพื้นเป็นการทอลายขัดมีโครงสร้างหลักโดยการสอดด้ายขวางเข้าไประหว่างด้ายยืน
การทอผ้าแบบเป็นลวดลาย
ผ้าที่ชาวกะเหรี่ยงนิยมใช้ทอบ่อยๆส่วนใหญ่จะมีลวดลายประกอบทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์และความนิยม
เช่น ลายแบบดั้งเดิม เป็นลวดลายโบราณที่นิยมสืบทอดต่อกันมา
ลักษณะลวดลายเป็นรูปทรงเรขาคณิต
ความสวยงามของลวดลายแบบดั้งเดิมต้องจกลวดลายให้เต็มพื้นที่
มีความนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน นิยมใช้สีสดใส เช่น สีขาว สีเหลือง สีเขียว
และลายใหม่คือ ลายที่เกิดจากการคิดลายขึ้นมาใหม่หรือมีการประยุกต์ดัดแปลงจากโครงสร้างของลายเก่าให้กลายเป็นลายใหม่
หรือ ลายที่เกิดจาการทอผิดไปจากลวดลายเดิมแล้วเกิดเป็นลายใหม่
งานทอผ้านั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น๒ ประเภท
คือ งานทอผ้าที่แบ่งตามวัตถุดิบที่ใช้ในการทอและงานทอผ้าที่แบ่งตามกรรมวิธีในการทอ
ผ้าที่ทอนั้นมีความสำคัญเพราะผ้าทอนั้นช่วยตอบสนองความจำเป็นขั้นพื้นฐานของ
อีกทั้งยังชี้ให้เห็นถึงความเป็นหญิงอย่างเด่นชัดเพราะในการทอผ้านั้นต้องใช้ความขยัน
ความอดทน ความพยายาม ความประณีต ความละเอียดอ่อน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอุปนิสัยของหญิง เพราะฉะนั้นเราควรอนุรักษ์งานผ้าทอกะเหรี่ยง-ละว้า
ไว้ให้อยู่กับเรายืนนาน
และเราที่เกิดในรุ่นหลังๆเราควรฝึกทอผ้าเพื่อที่งานทอผ้าของเราจะมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
เป็นที่รู้จักของคนอื่นๆและทำให้คนต่างถิ่นนั้นสนใจในงานผ้าทอของเราและพวกเขาจะได้นำไปบอกกล่าวแก่คนอื่น